ออกแบบอาคารรับมือแผ่นดินไหว
ออกแบบ จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี และก็ซีเรีย ตอนวันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ 2566 ที่มีขนาดความร้ายแรง 7.8 แมกนิจูด ทำให้ตึก บ้านช่อง แล้วก็สิ่งก่อสร้าง ตึกขนาดใหญ่พังทลายกระหน่ำ จนถึงทำความเสียหายต่อชีวิต แล้วก็สินทรัพย์อย่างมากมาย ผู้ชำนาญด้านแผ่นดินไหวสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจลิตร) ก็เลยมีแนวทางสำหรับในการต่อกรแผ่นดินไหว ทั้งยังในด้านการออกแบบตึก รวมทั้งกรรมวิธีการปรับปรุงตึกเพื่อลดการเสี่ยงจากความทรุดโทรมจากเหตุแผ่นดินไหว “ดร.ภาณุ ไทรสวย” คุณครูประจำสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจลิตร) ผู้ที่มีความชำนาญด้านส่วนประกอบตึกยับยั้งแผ่นดินไหว บอกว่า สาระสำคัญสำหรับในการวางแบบองค์ประกอบเพื่อต่อกรกับเหตุแผ่นดินไหวจะดีไซน์ให้เสามีขนาดใหญ่ขึ้น เพราะว่าผลพวงโดยตรงกับตึก จะเป็นแรงที่ทำจากข้างๆ ซึ่งเป็น “เสา” เรียกว่าระบบ “เสาแข็งคานอ่อน” ช่องทางที่เสาจะเอนจะลดน้อยลง รวมทั้งทำตึกให้มีความเหนียวเยอะขึ้นโดยการเพิ่มเนื้อหาเหล็กเสริม รวมทั้งเหล็กปลอกขององค์ประกอบตึก สำหรับตึกเก่าที่ผู้ครอบครองมีความรู้สึกกังวลใจ ข่าวออกแบบ ในแนวทางทางวิศวกรรม ข่าวสารวางแบบ สามารถกระทำการพินิจพิจารณาตึกได้ รวมทั้งถ้าหากผลพินิจพิจารณาออกมาพบว่าเป็นตึกที่ไม่สามารถที่จะรับแรงแผ่นดินไหวได้โดยมี 4 วิถีทางดังต่อไปนี้ 1.เสริมกำลังด้วยคอนกรีต รวมทั้งเหล็กเสริมที่เสาให้มีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิม (concrete jacketing) ซึ่งเป็นกระบวนการเสริมแรงแบบเริ่มแรก เหมาะกับตึกที่อยากเสริมความแข็งแรงของตึกเพื่อรองรับแผ่นดินไหวในพื้นที่ที่มีผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการก่อสร้างด้านการเสริมกำลังด้วยโครงคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยเป็นแนวทางเริ่มแรกที่ถูกใช้ในหลายประเทศ 2.เสริมกำลังด้วยแผ่นเหล็กที่เสาจะก่อให้ตึกมีการรับแรงข้างๆได้มากขึ้น (steel jacketing) แทนการเอาเหล็กเสริม และก็คอนกรีตเข้าไปพอกที่เสาเพียงอย่างเดียว เหมาะกับตึกที่ปรารถนาเสริมความแข็งแรงของตึกเพื่อรองรับแผ่นดินไหว แล้วก็มีผู้ที่มีความชำนาญสำหรับในการก่อสร้างงานด้านการเสริมกำลังด้วยส่วนประกอบเหล็ก 3.เสริมกำลังโดยให้กำแพงสามารถรองรับแรงเชือด (shear wall) ซึ่งอาคารสูง หรือตึกสาธารณะในประเทศไทย โดยยิ่งไปกว่านั้นจ.กรุงเทพฯมีการดีไซน์รับแรงข้างๆมานานแล้ว จากธรรมดาที่ฝาผนัง หรือกำแพงจะเป็นเพียงแค่ก้อนอิฐเพียงอย่างเดียว ซึ่งส่วนมากจะใช้วิธีการแบบนี้กับอาคารสูง เหตุเพราะจะได้รับผลพวงอีกทั้งกระแสลม หรือแผ่นดินไหวมากยิ่งกว่าตึกต่ำ แนวทางการเป็นใส่เหล็กเพื่อช่วยรับแรงข้างๆดังที่กล่าวถึงแล้ว หรือเรียกว่าเป็นฝาผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก กำแพงอย่างงี้จะไม่มีองค์ประกอบเสาคานให้มองเห็น ซึ่งเกิดขึ้นจากการออกแบบให้รับน้ำหนักแทนเสา แล้วก็คาน ฝาผนังแบบงี้แข็งแรงกว่าฝาผนังก่ออิฐฉาบปูน แต่ว่ามีข้อเสียตรงที่พวกเราไม่สามารถที่จะแก้ไข เพิ่มเติม หรือเจาะฝาผนังได้ เพราะเหตุว่าจะกำเนิดความทรุดโทรม
แนะนำข่าวออกแบบ อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : มาช้า แต่มาชัวร์ OPPO ส่ง Find N2 Flip พร้อมท้าชน Galaxy Z Flip4